สื่อ เยอรมนี เผย พบ โควิดกลายพันธุ์ เชื้อสายอังกฤษ ตั้งแต่ พ.ย.

สื่อ เยอรมนี เผย พบ โควิดกลายพันธุ์ เชื้อสายอังกฤษ ตั้งแต่ พ.ย.

สื่อ เยอรมนี เผยว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ พบ โควิดกลายพันธุ์ ในผู้ป่วยที่เสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน คาดไวรัสอาจจะอยู่ในประเทศร่วมเดือนแล้ว เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม สำนักข่าว รอยเตอร์ ระบุว่า หนังสือพิมพ์ในประเทศเยอรมนีได้รายงานว่ามีการตรวจพบโควิดกลายพันธุ์ เชื้อสายอังกฤษ หรือ B117 ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่แพทย์ตรวจพบเชื้อในศพของผู้ป่วยที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้

ซึ่งทางโรงพยาบาล เบอร์ริน ชาไรท์ ได้ออกมายืนยันว่าการค้นพบดังกล่าวเป็นเรื่องจริง

ขณะเดียวกัน ทางการเยอรมนีรายงานว่ามีการตรวจพบ โควิดกลายพันธุ์ เชื้อสายอังกฤษ ในผู้ป่วยรายใหม่ โดยผู้ป่วยรายนี้เดินทางจากประเทศอังกฤษ ไปยังนครแฟรงก์เฟิร์ต ในช่วงวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยรายนี้ต้องการจะมาเยี่ยมครอบครัว แต่ถูกตรวจพบเชื้อเมื่อเดินทางมาถึง โดยผู้ป่วยรายนี้ได้ถูกกักตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โควิดกลายพันธุ์เชื้อสายอังกฤษ นั้นสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าโควิดกลายพันธุ์ชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ดีในขณะนี้ผู้ป่วยยังไม่ได้แสดงอาการแตกต่างออกไปจากการติดโควิด-19 ธรรมดา ซึ่งผู้พัฒนาวัคซีนหลายเจ้าได้ออกมาแสดงความมั่นใจว่าวัคซีนน่าจะสามารถใช้กับโควิดกลายพันธุ์ได้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นาย บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ประกาศยกระดับเตือนภัยในประเทศอังกฤษเป็นเทียร์ 4 ซึ่งเป็นระดับเตือนภัยสูงสุดและไม่เคยมีมาก่อน ในขณะนี้มีประชากรราวๆร้อยละ 43 ของประเทศที่อยู่ภายใต้ระดับเตือนภัยดังกล่าว  และในวันที่ 30 ธันวาคมที่จะถึงนี้ทางการอังกฤษ ทางการจะหารือมาตรการเทียร์ 4 อีกครั้ง และคาดว่าทางการสั่งใช้มาตรการเทียร์ 4 ในพื้นที่อื่นๆอีกด้วย

ขณะเดียวกันประเทศเวลส์และสกอตแลนด์ ก็ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 4 เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ 

สหราชอาณาจักรมียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 2.3 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70,000 ศพ

ทางการ รัสเซีย ออกมายอมรับว่า ยอดตายโควิด นั้นสูงกว่าที่รายงานเอาไว้ถึง 3 เท่า และทำให้รัสเซียเป็นประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 ของโลก เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า ทางการรัสเซียออกมายอมรับว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงกว่าที่รายงานเอาไว้ก่อนหน้านี้ และทำให้จำนวนยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับ 3 ของโลกตามหลังประเทศสหรัฐอเมริกา และ บราซิล

โดยหน่วยงานจัดเก็บสถิติของประเทศรัสเซียระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตของชาวรัสเซียในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ราวๆ 229,700 ศพ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีรัสเซียระบุว่าร้อยละ 81 ของจำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้น สาเหตุการเสียชีวิตมาจากโรคโควิด-19 กล่าวคือจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในประเทศรัสเซียจะอยู่ที่ 186,000 ศพ ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์มอสโกนิวส์ ระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตในเดือนเดียวที่มากที่สุดในรอบ 16 ปีที่มีการเก็บข้อมูล

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการตั้งข้อสงสัยถึงจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตจริงจากโรคโควิด-19 โดยผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่แพทย์ เชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจริงน่าจะสูงกว่านี้ และเมื่อสัปดาห์ อดีตนักทำสถิติได้ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเลขมีการปลอมแปลง ประเทศรัสเซียมียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ราวๆ 3 ล้านราย ถือเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยสะสมมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก

เพื่อนบ้าน มือวาง คาร์บอมบ์แนชวิลล์ เผยบทสนทนาก่อนเกิดเหตุ

เพื่อนบ้าน ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวและบทสนทนาของเขากับมือวาง คาร์บอมบ์แนชวิลล์ ในช่วงวันคริสต์มาส จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม สำนักข่าว เอพี ได้เปิดเผยถึงบทสนทนาระหว่าง ริค เลาเด และ แอนโธนี่ ควินน์ ชายวัย 63 ปีที่เป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุคาร์บอมบ์ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าของวันคริสต์มาสที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย

โดยเพื่อนบ้าน ของผู้ก่อเหตุกล่าวว่า เขาได้คุยกับผู้ก่อเหตุบริเวณกล่องจดหมายหน้าบ้าน ไม่กี่วันก่อนถึงวันคริสต์มาส ซึ่งนายเลาเดได้ถามกับนายควินน์ว่า “ซานต้าจะให้ของขวัญอะไรดีๆกับคุณในวันคริสต์มาส” ซึ่งนายควินน์ตอบกลับมาว่า “แนชวิลล์และโลกนี้จะไม่มีทางลืมผมได้เลย”

นายเลาเดยอมรับว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมากกับประโยคดังกล่าว และคิดว่าเขาอาจจะได้รับเงินในช่วงคริสต์มาสเท่านั้น ซึ่งผู้ให้สัมภาษณ์ยังได้เปิดเผยอีกว่า เขาดูไม่ได้เป็นคนอันตรายเลย และ ดูเป็นคนเงียบๆเสียมากกว่า

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า คนร้ายได้ทิ้งหลักฐานไว้ว่าเขาได้วางแผนก่อคาร์บอมบ์และตั้งใจที่จะปลิดชีพตนเอง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุมูลเหตุจูงใจอย่างแน่ชัดได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการคุยกับผู้ก่อเหตุ ทว่าผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตในเหตุคาร์บอมบ์ดังกล่าว

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุอีกว่าผู้ก่อเหตุได้มอบยานพาหนะและบ้านพักให้กับผู้อื่น พร้อมบอกว่าเขาป่วยเป็นมะเร็ง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งจริงหรือไม่

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเช้าของวันคริสต์มาสที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถ RV จอดอยู่ที่หน้าสำนักงานโทรคมนาคม พร้อมข้อความแจ้งเตือนให้รีบหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ที่ก่อนรถคันดังกล่าวจะระเบิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และยังส่งผลให้ระบบการโทรคมนาคมในรัฐเทนเนสซี และพื้นที่ใกล้เคียงขัดข้อง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป